ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
1 min read
ความกดดันในสังคมทุกวันนี้ทำให้คนที่มีอาการของโรคซึมเศร้ามีอยู่มากอาจจะมีจำนวนหลายล้านคน บางคนก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่
ความเสียใจครั้งใหญ่ในชีวิตเมื่อประสบอุบัติเหตุทางการเงินจนเกิดอาการช็อคแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เกิดความฟุ้งซ่านในสมองจนไม่สามารถหยุดได้ เขาเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของร่างกายตัวเองโดยมีอาการมือสั่นและแขนก็ชาขึ้นมาทั้งแขน ตั้งแต่วันนั้นเขาก็เริ่มมีอาการปวดหัวบริเวณขมับและท้ายทอยทั้งสองข้างอย่างหนัก จนถึงขนาดนอนไม่หลับอยู่หลายคืนโดยหลับไปจากความอ่อนเพลียของร่างกายเมื่อเกือบรุ่งสาง เวลาคิดถึงเหตุการณ์นี้สภาพจิตของตนเองก็จะปรุงแต่งต่อไปจนหาความสงบไม่เจอหรือนี่จะเป็นการเตือนของโรคซีมเศร้า
หลังจากมีอาการอย่างนี้สามสี่วันเขาไม่สามารถอยู่ในสภาพนี้ต่อไปได้ เขาจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลโดยตรงไปยังคลีนิคจิตเวช วันแรกที่เขาเข้ารับการรักษานั้นทางคลีนิคโดยคุณพยาบาลเริ่มซักถามอาการต่างๆ และเน้นย้ำเรื่องความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง เมื่อถึงคิวที่หมอเรียกให้เข้าไปพบ หมอก็เริ่มชวนคุยเพื่อถามสาเหตุของอาการและให้คำแนะนำการปฏิบัติตน หลังจากนั้นหมอก็จ่ายยาให้มาสองชนิด ยาชนิดแรกเป็นยาที่ใช้เพื่อปรับสารเคมีในสมองหรือยารักษาอาการของโรคซึมเศร้า และยาอีกชนิดหนึ่งก็เป็นยานอนหลับอย่างอ่อนให้กินเฉพาะเวลานอนไม่หลับ
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาคือคนไข้โรคซึมเศร้าที่จะต้องไปพบแพทย์ที่คลีนิคจิตเวชทุก 3 เดือน โรคซึมเศร้าคือโรคจิตเภทชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรมหรือสภาพแวดล้อมตอนเป็นเด็กหรือได้รับผลจากคนใก้ลชิดและเมื่อมีเหตุการณ์มากระตุ้นให้เกิดความเครียดเกิดขึ้นมา โรคซึมเศร้าอาจจะเกิดขึ้นจากโรคประจำตัวของคนๆนั้นก็ได้อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ส่วนประเภทของโรคซึมเศร้าจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือมีอาการซึมเศร้าอย่างเดียวหรือมีอารมณ์ขึ้นลงอย่างที่เรียกว่าไบโพลาร์ซึ่งแบบหลังนี้จะร้ายแรงกว่า

สาเหตุของโรคซึมเศร้าของเขาน่าจะมาจากสภาพแวดล้อมในวัยเด็กและคนรอบข้างที่มีความกดดัน เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตกใจและเสียใจมากๆหรือช็อค มันจึงไปกระตุ้นอาการโรคซึมเศร้าให้เกิดขึ้น ความจริงแล้วเราสามารถป้องกันไม่ให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เครียด กินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คิดสิ่งที่เป็นบวก พักผ่อนให้เพียงพอและทำสมาธิ ส่วนยาที่ใช้รักษาอาการโรคซึมเศร้าเป็นยาที่ไม่มีอันตรายและไม่ทำให้ติด สามารถกินไปได้ตลอดจนกว่าแพทย์จะสั่งให้ลดหรือหยุดยาได้
ตั้งแต่วันที่มีอาการของโรคซึมเศร้าและเริ่มเข้ารับการรักษาเขาเริ่มสังเกตอาการของตนเองอย่างละเอียด พบว่าเรี่ยวแรงลดลงมาจากเดิม ความสามารถในการทรงตัวลดลงและเบื่อหน่ายกิจกรรมที่เคยทำ จิตใจมักจะห่อเหี่ยว แต่ไม่มีความคิดในเรื่องการทำลายชีวิตตนเอง ซึ่งความคิดนี้เป็นเรื่องที่แพทย์และพยาบาลจะให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ
ทุกวันเขาจะกินยาตามที่แพทย์สั่ง ส่วนยานอนหลับจะกินตอนที่นอนไม่หลับหรือหลับยาก เขาจะออกห่างจากสมาชิกในครอบครัวบางคนที่ขี้บ่นและคิดลบโดยหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยด้วยนานๆ ยกเว้นในกรณีที่จำเป็น ตลอดจนต้องลดการทำงานที่ใช้แรงมากๆ และต้องหากิจกรรมที่ทำทุกวันโดยพยายามทำในเวลาเดียวกันเพื่อจะได้ทำโดยอัตโนมัติจะได้ไม่ต้องอยู่เฉยๆ แต่ต้องระมัดระวังเวลาเดินไปไหนหรือเดินขึ้นลงบันได เพราะผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุได้ง่าย

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้อาการของโรคซึมเศร้าลดลงคือการฟังธรรมและการปฏิบัติภาวนาหรือที่เรียกกันว่าการเจริญสติ คือการปฏิบัติเพื่อฝึกการรู้ทันทีเมื่อมีอะไรก็ตามเข้ามากระทบตาหูจมูกลิ้นกายใจ รวมทั้งการปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง ทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติไม่มีใครรู้ว่าเป็นโรคซึมเศร้า
ความกดดันในสังคมทุกวันนี้ทำให้คนที่มีอาการของโรคซึมเศร้ามีอยู่มากอาจจะมีจำนวนหลายล้านคน บางคนก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่ หากใครพบว่าตนเองมีอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทางจิตเวช ถ้าพบว่าตัวเองเป็นโรคนี้จะได้รีบรักษาให้เร็วที่สุด จะได้มีโอกาสกลับมาเป็นปกติเพราะโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่รักษาให้หายได้
วิดีโอเพิ่มเติม :
สาเหตุโรคซึมเศร้า
เครดิตภาพ Bangkok Hospital Phuket, Investerest, Thomasthailand
#โรคซึมเศร้า #สาเหตุของโรคซึมเศร้า #อาการของโรคซึมเศร้า