ดนตรีของโลก
1 min read
ดนตรีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกล่อมโลกและรองรับความสุนทรีย์และรสนิยมที่หลากหลายของคนทุกชาติทุกภาษา ดนตรีไม่ถูกปิดกั้นด้วยเชื้อชาติ ศาสนา
“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก” บทพระราชนิพนธ์แปลของรัชกาลที่ 6 จากเวนิสวาณิช กล่าวถึงดนตรีซึ่งเป็นภาษาสากลของชนทุกชั้นทุกชาติ ดนตรีเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงอารยธรรมของผู้คน ดนตรีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกล่อมโลกและรองรับความสุนทรีย์และรสนิยมที่หลากหลายของคนทุกชาติทุกภาษา ดนตรีไม่ถูกปิดกั้นด้วยเชื้อชาติ ศาสนา และความแตกต่างทางชนชั้น วัฒนธรรมทางดนตรีเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของแต่ละชาติพันธ์ สื่อถึงสภาพสังคม, เศรษฐกิจ, ประสบการณ์, สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ความเชื่อทางศาสนา
การเกิดของดนตรี
ดนตรีเกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดขึ้นของมนุษย์ มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์สร้างเสียงดนตรีจากธรรมชาติ จากการเคลื่อนไหว จากเสียงผิวปาก จากเสียงตบมือเป็นจังหวะ จากการเคาะหินหรือกิ่งไม้ จากการส่งเสียงร้องเพื่อความสนุกสนานหรืออ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ดนตรีแต่ละยุค
ดนตรียุคก่อนประวัติศาสตร์ คือดนตรีธรรมชาติของมนุษย์ที่แตกต่างตามเชื้อชาติและภูมิศาสตร์และสภาพอากาศ เช่น ดนตรีของชนเผ่าอินเดียนในทวีปอเมริกาหรือดนตรีของชาว อบอริจินในออสเตรเลีย ดนตรีเกิดก่อนการเริ่มบันทึกประวัติศาสตร์ บางคนเชื่อว่าเสียงที่เกิดขึ้นของธรรมชาติคือดนตรีด้วย เครื่องดนตรีชนิดแรกก็คือเสียงของมนุษย์นั่นเอง เครื่องดนตรีชนิดแรกถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์โบราณนีนเดอธัลส์ (Neanderthals) มีอายุประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมา
ดนตรียุคโบราณ เกิดขึ้นในยุคต่อจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพลงที่เก่าแก่ที่สุดถูกเขียนขึ้นเมื่อ 3,400 ปีมาแล้วที่ประเทศซีเรีย โน๊ตดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดเกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึง 2
ดนตรียุคคัมภีร์ไบเบิ้ล มีการระบุในคัมภีร์ถึงทาสชาวฮิบบรูว์ที่โมเสสนำพาหนีมาจากอิยิปต์กำลังร้องเพลงของพวกเขาระหว่างการเดินทางและมีการบันทึกเหตุการนี้ในคัมภีร์ไบเบิ้ล
ดนตรียุคแรก คือดนตรีคลาสสิคของชาวยุโรปหลังการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน

ดนตรีศิลปะตะวันตก
ถ้าจะแบ่งดนตรีออกเป็นยุคโดยอ้างอิงดนตรีศิลปะตะวันตก (Western Art Music) จะแบ่งออกเป็น
ดนตรียุคกลาง อยู่ในช่วงประมาณ คริสต์ศตวรรษที่ 4 – 14 มีศูนย์กลางคือโบสถ์ ดนตรีของยุคนี้จะเป็นเพลงสวดมนต์ในโบสถ์โรมันคาธอริค
ดนตรียุคฟื้นฟูศิลปะวิทยา อยู่ในช่วงประมาณ คริสตศตวรรษที่ 15 เริ่มต้นทางยุโรปตอนเหนือ แนวดนตรีที่ใช้กันมากคือการประสานดนตรีที่มีทำนองตั้งแต่สองทำนองขึ้นไปที่เป็นอิสระต่อกันและเล่นไปพร้อมๆกัน
ดนตรียุคบาร็อค อยู่ในช่วงประมาณ คริสตศตวรรษที่ 17 -18 มีการเขียนบทเพลงโอเปร่าขึ้นครั้งแรก แนวดนตรีเป็นแบบที่มีท่วงทำนองหลายทำนองเล่นพร้อมๆ กันและเป็นอิสระต่อกัน คีตกวีคนสำคัญในยุคนี้คือ Johann Sebastian Bach
ดนตรียุคคลาสสิค อยู่ในช่วงประมาณ คริสตศตวรรษที่ 18 -19 เป็นดนตรีแบบที่มีท่วงทำนองที่ชัดเจนและมีรูปแบบที่แน่นอน ดนตรีแนวนี้แพร่หลายไปสู่ประชาชนมากขึ้นกว่าดนตรีสมัยก่อนที่มักจะอยู่ในโบสถ์ คีตกวีคนสำคัญคือ Wolfgang Amadeus Mozart, Ludwig van Beethoven และ Franz Schubert
ดนตรียุคโรแมนติก อยู่ในช่วงประมาณ คริสตศตวรรษที่ 19 -20 ดนตรีในยุคนี้มีความเป็นอิสระมากขึ้น คีตกวีคนสำคัญคือ Frederic Chopin, Robert Schumann, Richard Wagner, Johannes Brahms
ดนตรียุคศตวรรษที่ 20 และ 21 เป็นยุคที่มีการพัฒนาปฏิวัติวงการดนตรี มีการบันทึกเสียงดนตรีลงในสื่ออย่างแผ่นเสียงและซีดี มีการฟังและชมการแสดงดนตรีจากวิทยุและโทรทัศน์ มีความเป็นอิสระในการทดลองดนตรีแนวใหม่ๆ มีเทคโนโลยีของเครื่องขยายเสียงและเครื่องดนตรีอิเลคทรอนิคส์ โดยเฉพาะซินทีไซเซอร์ (Synthesizer) ดนตรีในยุคนี้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน

ดนตรีป๊อบปูล่าร์
ดนตรีป๊อบปูล่าร์ เป็นดนตรีที่มีการขยายการฟังออกไปอย่างกว้างขวางสู่ผู้ฟังจำนวนมากผ่านอุตสาหกรรมและธุรกิจทางดนตรี ดนตรีป๊อบปูล่าร์มีความหลากหลายตามความแตกต่างทางรสนิยมการฟังดนตรีของผู้คนทั่วโลก ดนตรีป๊อบปูล่าร์จึงเป็นดนตรีที่มีผู้นิยมอย่างกว้างขวางมากที่สุดในปัจจุบันและพัฒนารูปแบบของดนตรีออกไปเรื่อยๆ
เครดิตภาพ Soimilk, Desymphony, Monteverdi
#ดนตรีมาจากไหน #รูปแบบดนตรี #ประวัติการดนตรี