หัวใจของพุทธะ
1 min read
การเจริญสติแบบที่รู้ตัวเองทั้งกายและจิตใจ เป็นวิธีที่ง่ายและถูกต้อง ที่จะนำไปสู่ความเป็นพุทธะ และเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดต่อความทุกข์
หลักของพุทธะคือการแก้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือความทุกข์ ความทุกข์คือความคับข้อง ความขุ่นเคือง ความผิดหวัง ความเสียใจ ความสะเทือนใจ ความสูญเสีย ความต้องการในสิ่งที่ปรารถนา ความประสบพบกับสิ่งที่ไม่ปรารถนา ความทุกข์คือปัญหาหลักในชีวิตของมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ยุคโบราณตั้งแต่มนุษย์เริ่มรู้จักคิดได้ด้วยตนเองและเป็นการคิดที่มีการปรุงแต่งแบบมนุษย์ไม่ใช่คิดแบบสัตว์ที่เรียกว่าสัญชาตญาณ มนุษย์ที่ยังไม่หลุดพ้นจากพันธนาการของความคิดที่ปรุงแต่งจึงยังมีความทุกข์เกิดขึ้นเรื่อยไปและยังไม่มีอิสระในชีวิตต้องเวียนว่ายอยู่ในเรื่องของการเกิดและการดับของความทุกข์วนไปไม่มีที่สิ้นสุดจนวันสุดท้ายของชีวิต
การปฏิบัติเพื่อความเป็นพุทธะ

พระพุทธเจ้าได้ทรงสละสถานะของความเป็นเจ้าชายและออกแสวงหาความจริงด้วยการแสวงหาครูบาอาจารย์ที่ให้คำสอนและชี้แนวทางการพ้นทุกข์ พระองค์ทดลองปฏิบัติด้วยตนเองแม้กระทั่งการอดอาหารเพื่อทรมานตนเองจนร่างกายซูปผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกไร้เรียวแรงแต่ก็ไม่พบหนทางที่จะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ จนกระทั่งทรงค้นพบอริยสัจสี่ คือทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ หนทางดับทุกข์ และการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ พระพุทธเจ้าทรงเอาความจริงที่พระองค์ค้นพบนี้ประกาศออกไปและมีผู้ที่มีความเลื่อมไสและเข้ามาบวชเป็นภิกษุสาวกจำนวนมาก สิ่งที่พระองค์ประกาศออกไปนี่คือหัวใจของพุทธะหรือพระธรรม ในการที่จะเข้าถึงความเป็นพุทธะมนุษย์จะต้องปฏิบัติด้วยไม่ใช่แค่อ่านหนังสือหรือคำสอนจากอาจารย์ การปฏิบัติเช่นนี้เรียกว่าการภาวนาหรือการเจริญสติเริ่มจากการทำกรรมฐานแบบสมถะคือการเจริญสติหรือการปฎิบัติเพื่อให้เกิดความสงบของจิตโดยใช้วิธีการตามความถนัดของแต่ละบุคคล เมื่อเกิดความสงบของจิตแล้วก็ไม่ใช่หยุดอยู่เพียงเท่านี้เพราะเมื่อจิตมีความสงบแล้วจะต้องฝึกจิตต่อไปให้จิตตั้งมั่นเพื่อจะได้พิจารณาความเป็นจริงของชีวิตจนเห็นพุทธะและเกิดการหลุดพ้นที่เรียกว่านิพพาน
นิพพานคือที่สุดของพุทธะ

นิพพานคือที่สุดของพุทธะคือการมีชีวิตต่อไปตามปกติโดยเป็นอิสระจากความทุกข์ ไม่ว่าอะไรจะเข้ามากระทบกับตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็จะไม่มีการปรุงแต่งใดๆที่จะเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ได้อีกต่อไป การเจริญสติเพื่อไปถึงนิพพานไม่ใช่ทำได้เพียงการนั่งหลับตาและภาวนาเท่านั้น การเจริญสติทำได้ในชีวิตประจำวันโดยการเฝ้าสังเกตทุกๆ อิริยาบทของร่างกายและรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากายเรากำลังเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นการเดิน การยืน การย่อตัวลงนั่ง หันหน้าไปทางซ้ายและขวา กำลังหายใจเข้า กำลังก้าวขึ้นบันได อย่างที่เรียกว่าการรู้ตัวทั่วพร้อม เมื่อมีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นกับกายทั้งทางบวกและทางลบก็รู้ตัว ไม่ว่าจะเกิดความร้อน ความหนาว ความคัน ความเจ็บก็รู้ แค่ให้รู้เฉยๆ นี่คือการพิจารณาทางกาย ต่อมาก็ให้สังเกตความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับจิตใจไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกด้านดีหรือด้านร้าย ความอยาก ความโกธร ความสุข ความเศร้า ความกลัว เมื่อมันเกิดขึ้นก็แค่รู้ รู้เฉยๆไม่ต้องไปผลักไส เมื่อรู้แล้วมันก็จะดับไปเองตามธรรมชาติของมัน
การเจริญสติแบบที่รู้ตัวเองทั้งกายและจิตใจนี้เป็นวิธีที่ง่ายและเป็นหนทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่ความเป็นพุทธะและเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดต่อความทุกข์สำหรับมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา
เครดิตภาพ เสรีชน เสรีธรรม , MThai , MatichonWeekly
#หัวใจของพุทธะ #นิพพาน #ศาสนา ความเชื่อ