พรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่กลับมาแล้ว แฟนบอลเตรียมมันส์กันอีกครั้ง

เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองหลวงแห่งวงการลูกหนังอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2020-2021 และต้องบอกว่าเปิดฉากมาอย่างน่าตื่นเต้นเลยทีเดียวสำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่วันแรกของฤดูกาลก็มีการทำประตูกันอย่างเมามันแล้ว

ต้องบอกว่าตื่นเต้น เมามันเลยทีเดียวสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ ที่เปิดฉากมาเกมแรกทำประตูกันมากมาย ในทุกคู่ล้วนแล้วแต่มีประตูเกิดขึ้นทั้งสิ้นรวมแล้วทั้งสิ้น 17 ประตูใน 6 เกมของช่วงเสาร์ – อาทิตย์แรกของการแข่งขัน

บรรดาทีมใหญ่เรียงหน้าตบน้องใหม่ไปตามระเบียบ

สำหรับเกมแรกของฤดูกาลเหมือนเป็นการรับน้องใหม่ของพรีเมียร์ลีกทั้ง 3 ทีม ซึ่งต้องมีคิวโคจรมาพบกับเหล่าทีมบิ๊ก 6 ของลีกและถูกตบไปตามระเบียบ ไล่ตั้งแต่ฟูแล่ม ที่เปิดบ้านทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตซ์กับปืนใหญ่อาร์เซนอล และถูกไอ้ปืนใหญ่เปิดซิงไป 0-3 ถัดมาเป็นคิวของยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ต้องยกพลไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ซึ่งเกมนี้ต้องบอกว่าลีดส์สู้ได้มันมาก ถึงแม้จะแพ้ไป แต่การยิงลิเวอร์พูลในถิ่นแอนฟิลด์ได้ถึง 3 ประตูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว และที่น่าเสียดายคือเกมนี้ลีดส์ทำพลาดโดนจุดโทษถึง 2 ลูก หากเล่นละเอียดกว่านี้อาจมีลุ้นถึงขั้นคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้เลยทีเดียว เกมถัดมาของน้องใหม่อีกหนึ่งทีมคือเวสบรอมวิช อัลเบี้ยน ในวันอาทิตย์ซึ่งเปิดบ้านรับการมาเยือนของจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ และก็เป็นเวสบรอมวิช ที่ต้านทานพละกำลังในเกมรุกของเลสเตอร์ไม่ไหวพ่ายไป 0-3

2 บิ๊กจากแมนเชสเตอร์ยังไม่มีคิวแข่งในสัปดาห์แรก

ทางด้าน 2 บิ๊กจากเมืองแมนเชสเตอร์ยังไม่มีคิวการแข่งขันในสัปดาห์แรกนี้ โดยจะลงแข่งนัดแรกในสัปดาห์ถัดไปโดยทางด้านปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวเปิดบ้านต้อนรับคริสตัล พาเลซ ซึ่งต้องบอกว่าระยะหลังเป็นเกมที่ไม่ง่ายเลยสำหรับปิศาจแดงในการเจอกันกับคริสตัล พาเลซ ส่วนเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเดินทางไปเยือนวูล์ฟแฮมตัน หรือโปรตุเกสสาขา 2

สเปอร์ เอฟเวอร์ตัน หวังสอดแทรกขึ้นมาในท็อป 4

ทางด้านไก่เดือยทอง ทอตแน่มฮอต สเปอร์ และเอฟเวอร์ตัน ที่ดูจากการเสริมตัวผู้เล่นแล้ว ทั้งสองทีมน่าจะหวังที่การสอดแทรกขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อป 4 ของลีก เพื่อได้สิทธ์ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป หรือได้แชมป์บอลถ้วยอย่างใด อย่างหนึ่งมาประดับสโมสร โดยในนัดแรกของฤดูกาล ทั้งสองทีมมีคิวต้องโคจรมาพบกันน่าจะเป็นการได้หยั่งเชิงเบื้องต้นว่าทีมของตัวเองพร้อมแล้วหรือไม่

สุดท้ายแล้วมหันภัยโรคระบาดโควิด-19 ก็ไม่สามารถทำอะไรฟุตบอลได้ ฟุตบอลลีกแต่ละประเทศต่างก็จัดการแข่งขันกันต่อแบบไม่มีคนดู แต่มีการถ่ายทอดสด ซึ่งถือว่ากลายเป็นนิวนอมอลไปแล้ว โดยเฉพาะฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ก็ยังคงสร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลทั่วโลกได้ต่อไปโดยไม่ได้มีอุปสรรคอันใดมากีดกั้น เพราะฟุตบอลนั้นเปรียบเหมือนลัทธิหรือศาสนาไปซะแล้ว