อนาคตปิศาจแดงจะเป็นเช่นไร เมื่อแท็คติกของโซลชา มัน It’s complicated
1 min read
อนาคตปิศาจแดงจะเป็นเช่นไร เมื่อแท็คติกของโซลชา มัน It’s complicated
Credit : https://www.komchadluek.net/news/sport/393997
หลายคนคงรู้จักสถานะหนึ่งความสัมพันธ์หนึ่งใน Facebook ที่เรียกว่า It’s complicated ซึ่งมีความหมายว่า “มันซับซ้อน เข้าใจยาก” ซึ่งอาจจะเข้าใจกันในกลุ่มของวัยรุ่นทั้งหลายที่อาจจะมีสถานะการคบกันแบบคลุมเคลือหรือยังไม่แน่นอนถึงขั้นเป็นแฟนกันและยังไม่รู้แน่ชัดว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร สำหรับแท็คติกฟุตบอลของผู้จัดการทีมก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากคลุมเคลือ ซับซ้อน เข้าใจยาก ก็ย่อมไม่รู้อนาคตของทีมเช่นเดียวกัน
หลังจากฤดูกาล 2019-2020 ได้จบลง ซึ่งถือว่าเป็นฤดูกาลพิสูจน์ผลงานอย่างเป็นทางการของโอเล กุนน่า โซลชากุนซือใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกัน โดยเขาทำผลงานการพาปิศาจแดงจบอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก พาทีมกลับไปเล่นถ้วยใหญ่ของยุโรปได้สำเร็จ รวมทั้งสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศบอลถ้วยได้ทุกถ้วย ถึงแม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ใดได้เลย แต่ถ้ามองผลงานโดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจพอสมควร
แต่ถ้ามองถึงเรื่องของแท็คติกและการแก้เกมของโซลชาแล้วต้องบอกว่าความฝันของเหล่าเด็กผีที่อยากให้ทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ยังอยู่ห่างไกลความจริง เนื่องจากหลายๆเกม แท็คติกและการแก้เกมของโซลชายังดูแล้วเข้าใจยากแบบที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “It’s complicated”
ตลอดทั้งฤดูกาล โซลชายึดระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก โดยจะปรับมาใช้ระบบ “หลังสาม” คือ 3-5-2 หรือ 3-4-3 ตามสถานการณ์ โดยขึ้นอยู่กับคู่แข่งในแต่ละนัด ตัวอย่างเช่นเวลาเจอคู่เล่นอันตรายอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ หรือ เชลซี ส่วนแนวทางการเล่นที่โอเล่จัดให้ลูกทีมนี่แหละคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายนัดของผีแดงต้องเสียแต้มไป คือเน้นการครอบครองบอลเป็นหลัก โดยผู้เล่นพันธุ์อสูรจะต่อบอลและทำชิ่งกันไปเรื่อยๆ
โดยอาศัยผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 เป็นตัวสร้างสรรค์เกมเป็นกุญแจสำคัญ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการมาของบรูโน่เฟอร์นันเดสจึงทำให้ฟอร์มของปิศาจแดงกระฉูดขึ้น ส่วนก่อนหน้านั้นก็สามวันดี สี่วันไข้ เกมรุกของทีมสายพันธ์อสูรไม่กล้าที่จะเล่นบอลแบบเสี่ยง ไม่มีลูกพลิกแพลง แถมไม่ค่อยมีความกล้าได้-กล้าเสียสักเท่าไหร่ เนื่องจากกุนซือวางแท็คติกเน้นการครองบอลมากเกินไป
โดยเฉพาะรูปแบบเกมรุกอันเป็นเอกลักษณ์ในสมัยเฟอร์กี้ที่หายไปคือการครอสจากด้านข้างที่ต้องบอกว่าหายไปเลยในยุคนี้ จากสองเหตุผลคือ ไม่มีกองหน้าตัวเข้าฮอส และ ไม่มีตัวเปิดบอลที่ดี เห็นได้ชัดในหลายๆจังหวะ ที่บอลอยู่กับฟูลแบ็คบริเวณเส้นหลังแต่ ฟูลแบ็คทั้งสองข้างของแมนฯยูเลือกที่จะจ่ายบอลกลับเข้ามาด้านในแทนที่จะเปิดเข้ามาลุ้น
อีกอย่างที่ดูแล้วเข้าใจยากเช่นเดียวกันคือการแก้เกมของโซลชาที่หลายๆเกมเขาดูกล้าๆกลัวๆ จนเกินไป เช่นบางนัดทีมกำลังบุกกระซวกใส่คู่แข่งอยู่แต่เขาดันเปลี่ยนกองหลังลงมาแทนแนวรุกเพื่อปิดเกม แต่สุดท้ายมาเสียประตู หรือบางนัดทีมต้องการประตู แต่ก็ไม่กล้าส่งแนวรุกลงมาเพิ่ม
รวมทั้งการแก้เกมที่ชักช้า ไม่มั่นใจในศักยภาพตัวสำรองจนทำให้แฟนๆปิศาจแดงต้องกุมขมับกันไป ซึ่งเหล่าสาวกเรดอามี่ทั้งหลายก็คงหวังให้ผลงานของโซลชาและทีมรักดีขึ้นในฤดูกาลหน้าฟ้าใหม่ให้ได้
แฟนบอลทั้งหลายอาจจะไม่ได้มีความเข้าใจศาสตร์ลูกหนังอย่างถ่องแท้เท่ากับเหล่ากุนซือที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนมา แต่สิ่งที่แฟนบอลอย่างเราสามารถเข้าใจได้คือ ผลงาน รูปแบบการเล่นของทีมรักที่ออกมาในสนาม ซึ่งถึงแม้ว่าแท็คติกของผู้เป็นกุนซือจะสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ขนาดไหน แต่ถ้าผลงานของทีมออกมาดีแฟนบอลทั้งหลายก็คงแฮปปี้
เหมือนกับสถานะความสัมพันธ์“It’s complicated” นั้นแหระ ที่ถึงแม้นจะคลุมเคลือ ซับซ้อนยังไงแต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีความสุขและพอใจกันก็คงพอ

Credit : https://workpointtoday.com/ole-perfect/
#ปิศาจแดง #โซลชา #กีฬา #ManU