รัสเซียสู้ยิบตา อุทธรณ์ศาลกีฬาโลกหวังได้ร่วมแข่งโอลิมปิกปี 2020
1 min read
วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็เป็นการปิดฉากมหกรรมเกมกีฬาระดับประเทศอย่างซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปิน และเร็วเร็วนี้ ก็จะเวียนมาบรรจบกับการแข่งขันมหกรรมเกมกีฬา
วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็เป็นการปิดฉากมหกรรมเกมกีฬาระดับประเทศอย่างซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปิน และเร็วเร็วนี้ ก็จะเวียนมาบรรจบกับการแข่งขันมหกรรมเกมกีฬาระดับโลกอย่างกีฬาโอลิมปิก 2020 อย่างไรก็ตามยังมีอีกประเทศหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการร่วมแข่งขันรายการดังกล่าวนั่นก็คือประเทศรัสเซีย
โดยสาเหตุก็เกิดมาจากทางคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศรัสเซียถูกกล่าวหาว่าทำการปกปิดข้อมูล การใช้สารกระตุ้นของนักกีฬาทีมชาติรัสเซียบ่อยครั้ง โดยครั้งหลังสุดนี้เป็นข้อกล่าวหาอันเป็นผลมาจากการตรวจสอบของ
องค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือวาด้า ที่ตรวจพบว่ามีการบิดเบือนข้อมูลจากห้องตรวจสอบสารกระตุ้น และมีคำสั่งลงโทษแบนไม่ให้ทีมชาติรัสเซียเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติใดใดเลยเป็นเวลาติดต่อกันสี่ปี สำหรับนักกีฬาจากประเทศรัสเซียซึ่งต้องการเข้าร่วมการแข่งขันจะสามารถเข้าร่วมได้ในนามนักกีฬาโอลิมปิกสากลเท่านั้น

ทั้งนี้ นายสตานิสลาฟ พอซ์ดเนียคอฟ ผู้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานกรรมการโอลิมปิกประเทศรัสเซีย ได้ออกมาเปิดใจกับเรื่องดังกล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าว และไม่ต้องการอย่างยิ่งที่จะต้องเห็นนักกีฬาของรัสเซียเข้าร่วมการแข่งขันในนามนักกีฬาโอลิมปิกสากล แต่ต้องในนามทีมชาติรัสเซียเท่านั้น
พวกเขามองว่าโทษแบนดังกล่าว เป็นเหตุผลจากทางด้านการเมืองนั่นเองและเชื่อว่าจะสามารถอุทธรณ์คำสั่งแบนดังกล่าวได้สำเร็จได้รับการเพิกถอนคำสั่งโทษแบนและสามารถทันลงการแข่งขันโอลิมปิกในฤดูกาล 2020 ที่กำลังจะมาถึงนี้ได้สำเร็จ ทั้งนี้ หากทำการสืบค้นย้อนกลับไปแล้วก็จะเห็นได้ว่าในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 ที่ผ่านมา ถ้าเกิดกรณี นาย อเล็นเดอร์ ครูเชลนิตซกี
นักกีฬาประเภทเคอ์ลิง ทีมชาติจากประเทศรัสเซียต้องถูกจับปรับฟาวล์ออกจากการแข่งขันโอลิมปิก ในปี 2018ด้วยเหตุที่เป็นการต้องสงสัยว่าอาจจะใช้สารกระตุ้น ในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งนักกีฬารายนี้ได้ออกมาบอกภายหลังเป็นเชิงระบายให้ฟังว่าตกเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้สารต้องห้ามดังกล่าวในการแข่งขันอย่างไร

ซึ่งนักเตะคนนี้ก็ได้บอกว่าตนรู้ว่าได้รับการกลั่นแกล้งจากคู่แข่งที่ดูเหมือนว่าจะไม่พอใจ ที่ตนสามารถคว้าอันดับในการแข่งขันครั้งนี้กลับมาได้จึงได้ทำการแอบนำสารกระตุ้นเข้าไปใส่ไว้ในเครื่องดื่มของตัวเขาต่างหาก อย่างไรก็ตาม เรื่องจบลงต้องที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
ณ เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะนักกีฬาโอลิปิกจากรัสเซีย ไม่ใช้ทีมชาติรัสเซียอันเนื่องมาจากมีการมองว่าตัวประเทศรัสเซียเอง เป็นผู้ให้การสนับสนุนให้นักกีฬาใช้สารกระตุ้น